กลับหน้าแรก
 
แถลงการณ์ 21: การสร้างความสมานฉันท์กับผู้ว่าฯ กทม.
อาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2556

ดร.โสภณ พรโชคชัย ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 4

          ทุกวันนี้เราดูข่าวหรือรายการการเมืองในสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง จะเห็นความไม่เป็นกลางในการนำเสนอข่าวหรือรายการ ประชาชนต้องถูกยัดเยียดให้ดูรายการที่มีลักษณะมอมเมา และขาดความรอบด้าน สถานีแต่ละสีเสื้อก็มักพบแต่การพูดกันอยู่ข้างเดียวเป็นหลักในรูปแบบพูดอยู่คนเดียว หรือมาช่วยกันพูดใส่ไคล้เป็นหมู่คณะ ไม่มีการนำเสนอความเห็นที่แตกต่างเลย การนี้สร้างความแตกแยกให้กับคนในชาติ ถ้าจะปิดก็เป็นการปิดกั้นการแสดงออก ดังนั้นทางออกก็คือการใช้สถานีวิทยุและโทรทัศน์ของ กทม. เองในการสร้างความสมานฉันท์ให้กับคนในชาติที่มักแสดงออกทางการเมืองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
          ดร.โสภณ เสนอให้ใช้สถานทีโทรทัศน์และวิทยุของ กทม. โดยเปิดโอกาสให้มีการถกเถียงกันอย่างแท้จริง กล่าวคือใน 24 ชั่วโมง จะมีการถกเถียงกันในประเด็นต่าง ๆ 6-8 ประเด็น ๆ ละ 3-4 ชั่วโมงไปเลย หรือถ้าจัดไม่ได้ตลอดวัน ก็อย่างน้อยวันละ 1-2 ประเด็น โดยจัดทุกวัน จัดช่วง Prime Time ประเด็นที่ถกเถียงกันก็คือประเด็นร่วมสมัย หรือประเด็นที่ถกเถียงกันอยู่ตาม “สภากาแฟ” ต่าง ๆ เช่น ต่อระบอบประชาธิปไตยที่เหมาะสมกับประเทศไทย ต่อนักการเมือง ต่อการโกงกิน เป็นต้น หรือแม้แต่ต่อเหตุการณ์ร่วมสมัยต่างๆ เป็นต้น
          หัวใจสำคัญของการจัดทำรายการวิทยุหรือโทรทัศน์ใหม่นี้ก็คือ การเชิญบุคคลที่เห็นต่างกันสองขั้วมาคุยกัน ไม่จำเป็นต้องประจันหน้ากัน เพราะอาจจะเสี่ยงต่อการมีเรื่องวิวาทหรือถึงขั้นชกต่อยกันได้ อาจถ่ายทอดสัญญาณสดจากสถานที่ 3 แห่ง คือจากสถานีและจากคู่ถกเถียงทั้งสองฝ่าย ลักษณะของรายการก็คือให้โฆษกป้อนคำถาม และให้แต่ละฝ่ายพูดกันคนละไม่เกิน 5 นาที เท่าเทียมกัน ไม่มีการแย่งกันพูด แล้วให้โฆษกสรุปพร้อมป้อนคำถามเพิ่มเติมอีก 2 นาที ดำเนินรายการโดยใช้เวลา 3-4 ชั่วโมงต่อประเด็น
          ที่ผ่านมา อาจมีบางท่านบอกว่ามีเคยมีรายการเช่นนี้แล้ว แต่เชื่อว่ายังดำเนินการไม่เป็นกลางจริง บ้างก็อาจแก้ว่า ที่ผ่านมาทั้งโทรทัศน์สีเสื้อ ต่างก็บอกว่ายินดีและได้เชิญฝ่ายตรงข้ามแล้ว แต่ไม่มีใครมาออกอากาศ กรณีนี้ผม เสนอว่านั่นคงเป็นเพียงการเชิญในรูปแบบ-พิธีการเท่านั้น และคงไม่มีใครมาหากมาแล้วถูกรุม เป็นต้น
          ผมเชื่อว่ารายการหรือช่องโทรทัศน์ที่ดำเนินการเช่นนี้ จะทำให้ช่องโทรทัศน์ของแต่ละฝ่ายที่ดำเนินการแบบ “ปิดตาข้างเดียว” หรือ “ปิดฟ้าด้วยฝ่ามือ” และมีลักษณะยั่วยุ ปลุกระดม มอมเมา จะฝ่อลงไปในทันที เพราะประชาชนจะเลือกชมรายการ “ประเทืองปัญญา” ที่มองรอบด้านมากกว่าจะมองข้างเดียว รายการเช่นนี้จะมีอัตราการเข้าชมสูงขึ้นกลายเป็นสิ่งที่ผู้คนในยุคนี้จะเข้ามาร่วมชมอย่างล้นหลาม เป็นการสร้างความสมานฉันท์ขึ้นมาจากการได้ฟังความอย่างรอบด้าน เป็นสำคัญ
          ดร.โสภณ เชื่อว่าถ้าจัดรายการอย่างเป็นกลางได้เช่นนี้จริง ประกบคู่ได้เหมาะสม มีประเด็นถกเถียงที่ดีจริง จะมีคนฟังล้นหลาม สามารถหาโฆษณาให้รายการหรือช่องสถานีโทรทัศน์อยู่รอดได้แน่นอน และหากในกรณีผู้ที่ได้รับเชิญมาออกรายการตอบไม่ดี ไม่ชัดเจน ชาวบ้านหรือประชาชนทั่วไปก็จะเห็นเอง ใครพูดจาเกะกะระรานหรือ “ดำน้ำ” “เล่นลิ้น” ก็จะแพ้ภัยตัวเองไปในที่สุด ดังนั้นผมเชื่อว่าผู้ที่ได้รับเชิญจะรู้สึกเป็นเกียรติมาก และจะมีผู้ยินดีให้รับเชิญเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
          ผู้ว่าฯ กทม. ก็มีส่วนช่วยสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นกับคนในชาติได้

ติดต่อ ดร.โสภณ พรโชคชัย ผู้สมัครหมายเลข 4 ได้ที่ คุณอัจฉรา 08.6628.2817 อีเมล์: sopon@trebs.ac.th  thaiappraisal@gmail.com  เว็บไซต์หาเสียงที่ www.sopon4.housingyellow.com Facebook: www.facebook.com/dr.sopon4  Twitter: www.twitter.com/Pornchokchai