แถลงการณ์ 44: เล่นว่าว ทวงคืนสนามหลวงเพื่อสังคม
พุธที่ 27 กุมภาพันธ์ 2556
ดร.โสภณ พรโชคชัย ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 4
สนามหลวงแต่เดิมให้ใช้เป็นที่พักผ่อนของประชาชน ปัจจุบันนี้ตกอยู่ในสภาพ เห็นแต่ตา
มืออย่าต้อง ควรคืนให้ประชาชน และใช้เป็นที่ชุมนุมทางการเมือง
จะได้ไม่เกิดการชุมนุมในย่านอื่น
และควรใช้เพื่อเป็นไนท์บาซาร์ที่ใหญ่และดีที่สุดในโลก
ในปัจจุบัน กทม. ให้ใช้สนามหลวงเฉพาะงานราชพิธี รัฐพิธี
งานประเพณีสำคัญของชาติโดยหน่วยงานของรัฐ และการจัดการแข่งขันกีฬาไทยประจำปี แต่ห้ามมีกิจกรรมทางการเมือง และการใช้ต้องยื่นคำขออนุญาตล่วงหน้าไม่น้อยกว่า
30 วัน และต้องวางหลักประกันเพื่อชดใช้ค่าเสียหาย 500,000 - 1,000,000 บาท การนี้เท่ากับเป็นการ ริบ พื้นที่พักผ่อนหย่อนใจของคนกรุงเทพฯ ไป การปลูกหญ้าผืนใหญ่เขียวขจีเสมือนพรม
แต่ไม่ยอมให้ใช้ประโยชน์เพื่อการพักผ่อนเท่าที่ควร
เป็นสิ่งที่พึงทบทวนใหม่เป็นอย่างยิ่ง
คนกรุงเทพฯ ในสมัยก่อนขี่จักรยานเป็นก็เพราะมีสนามหลวง ใครใคร่มาเล่นว่าว
หรือนั่งเล่นตามพื้นที่ต่างๆ ก็ย่อมทำได้ แต่ทุกวันนี้มีข้อจำกัดมาก กทม. สามารถให้คงพื้นที่สนามหลวงเป็นของประชาชน เพียงแต่ต้องจัดระเบียบให้ดี เช่น
การเช่าพื้นที่ค้าขายอาหาร เครื่องดื่ม เช่าจักรยาน โดยทำให้เกิดความโปร่งใส
นำเงินเข้าหลวงเพื่อพัฒนาสนามหลวงให้ดียิ่ง ๆ
ขึ้น
ที่สำคัญ
ควรใช้พื้นที่สนามหลวงเป็นที่ชุมนุมทางการเมือง
ไม่ใช่ไปชุมนุมในที่อื่นที่ไม่เหมาะสม หากสนามหลวงได้รับการใช้เพื่อการนี้
ก็จะเป็นการจัดระเบียบการชุมนุมที่ดีในเขตกรุงเทพมหานคร ไม่กีดขวางการจราจร
ไม่บุกรุกสถานที่ราชการ
สร้างความเสียหายให้แก่ประเทศชาติ
ยิ่งกว่านั้นการท่องเที่ยวในเกาะรัตนโกสินทร์ซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านประวัติศาสตร์ของชาติไทยนั้นมีข้อจำกัดในการเที่ยวในเวลากลางวันเพราะอากาศที่ร้อนมาก
ผมจึงเสนอแปลงพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ให้เป็นไนท์บาซาร์หรือตลาดท่องเที่ยวกลางคืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก โดยเริ่มต้นให้ใช้พื้นที่บริเวณสนามหลวง และรอบกระทรวงยุติธรรม
ซึ่งมีพื้นที่รวมกันประมาณประมาณ 60,000 ตารางเมตร หากนำพื้นที่ 50%
มาใช้เพื่อกิจกรรมสันทนาการและไนท์บาซาร์ ก็จะกินพื้นที่ประมาณ 30,000
ตารางเมตร
กรุงเทพมหานครในฐานะเจ้าของพื้นที่สามารถจัดกิจกรรมตลาดได้ทุกวัน
นำรายได้เข้ามาบำรุงเกาะรัตนโกสินทร์ได้เพิ่มเติม กิจกรรมไนท์บาซาร์นี้ควรเปิดบริการในระหว่างเวลา 18:00 - 24:00 น.
และควรมีกิจกรรมเสริมเช่น การล่องเรือรอบคลองหลอด
ลานการแสดงออกสำหรับคนหนุ่มสาวและศิลปิน เป็นต้น
และในอนาคตยังสามารถขยายไปยังถนนมหาธาตุ ท่าพระจันทร์ และอื่น ๆ ในเกาะรัตนโกสินทร์
รวมทั้งถนนราชดำเนินในและถนนราชดำเนินกลาง
จนกลายเป็นตลาดไนท์บาซาร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ประโยชน์จากการนี้เปิดตลาดไนท์บาซาร์ ณ เกาะรัตนโกสินทร์ ได้แก่
1.
เป็นการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมไทย
ให้ประชาชนได้ชื่นชมอาคารสถานที่สำคัญของเกาะรัตนโกสินทร์
ทำให้ประชาชนเกิดความหวงแหนในสถาบันชาติ
ศาสนาและพระมหากษัตริย์ในประเทศไทย
2. เป็นการเปิดโอกาสให้วัยรุ่น เยาวชน คนหนุ่มสาว ศิลปิน
ได้มีพื้นที่แสดงออกในเชิงสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มที่ในพื้นที่ไนท์บาซาร์แห่งนี้
ซึ่งไม่ได้เน้นเพื่อการขายสินค้าแต่อย่างใด
3.
เป็นการส่งเสริมธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมให้มีพื้นที่ทำการค้าในราคาที่ยุติธรรมพร้อมการตรวจสอบคุณภาพสินค้าและบริการที่ได้มาตรฐาน
4. เป็นสถานที่ทางเลือกเพื่อการพักผ่อนที่ปลอดภัยสำหรับประชาชนในยามค่ำคืน
ซึ่งจะทำให้พื้นที่นี้มีชีวิตชีวา ปลอดจากมิจฉาชีพ
โดยทั้งนี้จะมีการจัดวางกำลังรักษาความปลอดภัยเป็นอย่างดี
5. เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่สะอาด ปลอดมลพิษ มีคุณภาพ
ให้ชื่อเสียงของประเทศไทยเป็นที่ประจักษ์ในเชิงสากล
โดยไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวประเภทการให้บริการทางเพศหรืออื่นใดที่ทำให้ชื่อเสียงของประเทศชาติมัวหมอง
ทั้งนี้กรุงเทพมหานครควรจัดการจราจรทั้งทางบก ทางน้ำ
และการใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินซึ่งจะเชื่อมต่อมายังเกาะรัตนโกสินทร์นี้ให้ดี
เพื่อให้กลายเป็นเกาะที่ปลอดมลพิษโดยเฉพาะในยามค่ำคืน
ติดต่อ ดร.โสภณ พรโชคชัย ผู้สมัครหมายเลข 4 ได้ที่ คุณอัจฉรา 08.6628.2817 อีเมล์: sopon@trebs.ac.th thaiappraisal@gmail.com เว็บไซต์หาเสียงที่ www.sopon4.housingyellow.com Facebook: www.facebook.com/dr.sopon4 Twitter: www.twitter.com/Pornchokchai
|